วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

เตือนใจตัวเองเรื่องน้ำหนัก

ตอนที่คิดว่าจะเขียนเรื่องนี้ คิดว่าเอาล่ะ ฉันจะทำบล็อกลดน้ำหนักเป็นตัวเป็นตนละ แต่พอนิ้วถึงแป้นได้ก็เปลี่ยนใจ คิดว่ามานั่งเขียนบ่น ๆ ดีกว่า เป็นการเตือนใจและให้กำลังใจตัวเองอีกทางหนึ่ง (ไดอารี่ส่วนตัวอย่างเดียวมันไม่พอ T^T)

ฉันเป็นคนหนึ่งที่พยายามต่อสู้กับการลดน้ำหนักมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว เคยลดน้ำหนักก่อนหน้านั้น 1 ครั้ง แต่ครั้งนั้นไม่นับเพราะเป็นการลดแบบโรคจิต ที่ลดจากตอนที่ผอมอยู่แล้ว (แอบโทษคนคนหนึ่ง แต่ว่าเรื่องมันผ่านไปแล้วเราก็แล้วกันไป) แต่ที่ว่าพยายามลดจากที่อ้วนจริง ๆ ก็มีอยู่ 3 ครั้ง และครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 4 แล้ว คิดไปคิดมา ถ้าลด ๆ ขึ้น ๆ อย่างนี้ไม่ดีแน่ แล้วคือเทรนด์น้ำหนักสูงสุดมันก็ปีนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสิ จาก 63 เป็น 64 เป็น 64.5 ... กลัว ... ตอนนี้ยอมรับเลอค่ะว่า 60.6 และเนื่องจากวันนี้กินมากเกินไปก็อาจจะหนักกว่านั้น

จริง ๆ ตั้งแต่เกิดมาไม่ค่อยได้เป็นคนผอมค่ะ จำได้ว่าผอมครั้งแรกคือตอนอยู่ป. 6 ที่อยู่ดี ๆ เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ สูงขึ้นแต่น้ำหนักไม่เพิ่ม เลยได้หนัก 50 กก. สูง 160 ซม. หุ่นดีอยู่ได้เกือบปีนึงจนกระทั้งขึ้นม.1 ที่ย้ายโรงเรียนอยู่ไกลบ้านมากขึ้น ทำให้ไม่ได้ออกกำลังกาย น้ำหนักจึงเพิ่มเป็น 58 กก. โชคดีที่พระเจ้าเมตตา ประทานความสูงมาให้อีก 3 เซนกว่า ๆ ก็อยู่แบบอวบนิด ๆ ไปค่ะ แต่ทานน้อย เพราะกลุ่มเพื่อนเป็นสาววัยสะรุ่นทานน้อยกันทั้งกลุ่ม น้ำหนักเลยคงตัวอยู่แค่นั้น ช่วงกีฬาสีจะลดเหลือ 57 พออยู่ ๆ ไประหว่างปีก็จะเป็น 58 คงตัวอยู่ประมาณนี้

มาตอนม.3 เรียนหนักภารกิจเยอะ ประกอบกันมีคนใจดีซื้อเค้กไอศกรีมให้เป็นของขวัญวันเกิดไว้สองก้อน ประกอบกับคุณแม่ทำบราวนี่ไว้ ตอนกลางคืนเลยจัด บราวนี่ - เค้กไอศกรีม (Triple Flavors รสนี้เท่านั้น) - ซอสแครนเบอรี่ - วิปครีม ทุกคืนค่ะ กินอยู่ได้เกือบเดือนน้ำหนักขึ้นเป็น 59 กก. ค่ะ รู้สึกว่าตัวเองมีพุง ตกใจเลยงดของหวานจานโปรดที่สุด เท่านั้นน้ำหนักก็ลดกลับมาเท่าเดิมค่ะ

จนกระทั่งขึ้นม.4 น้ำหนักลดลงมาเหลือ 56 - 57  กก. ตอนกีฬาสีเล่นกีฬาสะใจมากค่ะ แก้เครียดในห้องเรียน น้ำหนักลดลงเหลือ 55 กก. ค่ะ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตัวเอง "ผอมลง" คือตอนเด็ก ๆ ไม่เคยกลัวเพราะคิดว่ากินเข้าไปเดี๋ยวก็สูงขึ้น แต่ตอนนี้มันหยุดสูงแล้วสิ ดีใจค่ะ พอระหว่างปีก็กลับไปเป็น 57 เหมือนเดิม กีฬาสีก็ลดลงมาเหลือ 55

พอม.6 ภารกิจเร่งเร้า น้ำหนักก็กลับไปอยู่ที่ 57 เหมือนเดิม ยกเว้นตอนปิดเทอมอ่านหนังสือสอบทุนไม่ได้ไปไหน น้ำหนักเลยขึ้นมา 58-59 ก็ไม่ได้ตกใจอะไรค่ะ เพราะสอบทุนเสร็จเดี๋ยวก็กีฬาสีละ เดี๋ยวมันก็ลดเอง

กีฬาสีครั้งนี้ล่ะค่ะ จุดเปลี่ยนของชีวิต ตอนนั้นเราเริ่มคบผู้ชายคนแรกด้วยค่ะ เป็นคนที่ ชอบคนผอมค่ะ ย้ำกับเราตลอดเวลาเรื่องผอม เราเองก็เล่นกีฬาประชดชีวิต เอ๊ย คลายเครียดอยู่แล้ว กีฬาสีครั้งนี้เลยลดเหลือ 54 กก. ได้ค่ะ เป็นครั้งแรกที่เราเริ่มควบคุมอาหารด้วยตนเอง เพราะอยากจะผอมอย่างนี้เรื่อย ๆ ไป ก็ลดลงไปอีกได้เหลือ 53 แล้วก็ตัดสินใจว่า พอแล้ว เพราะคนเริ่มทักว่าผอมเกินไป

ก็สามารถคงน้ำหนักไว้ได้ที่ 54 - 55 มาเป็นเวลาครึ่งปีค่ะ จนกระทั่งจะไปเรียนเมืองนอก คือก่อนไปเรียนเพิ่งมีภารกิจไปญี่ปุ่นกลับมา ทานเยอะมาก ๆ แต่น้ำหนักก็ยังอยู่ที่ 55 กว่า ๆ ถึงกระนั้น แฟนย้ำตลอดเวลาค่ะว่าให้ลดความอ้วน

พอไปอเมริกา ความกลัวอ้วนจับจิตขึ้นสมองเลยค่ะ โรคจิตมาก พยายามลดน้ำหนักทั้ง ๆ ที่ยังปรับตัวกับอะไรก็ไม่ได้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด และความกลัวอ้วนก็ขึ้นสมอง พยายามอดอาหาร โหมออกกำลังกาย แถมหาเครื่องชั่งน้ำหนักไม่ได้ พารานอยด์กับน้ำหนักตัวเองมากค่ะ แต่จริง ๆ ไปได้สี่เดือนก็ได้กลับบ้านแล้ว กลับบ้านครั้งนี้ล่ะค่ะที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ เรากินไม่ยั้งเลยค่ะ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า น้ำหนักตอนกลับมา 55 เพิ่มเป็น 57 ก็ปฏิญาณตนว่าจะกลับไปลด สองอาทิตย์ที่กลับไปก็ลดได้เหลือ 55 เหมือนเดิมค่ะ แล้วก็มีข่าวดีว่าได้กลับบ้านอีก ห้าวันก่อนได้กลับบ้านไปค้างบ้านครู งานนี้ล่ะค่ะ กินไม่ยั้งอีกแล้ว หนักกว่าเดิม 5 วัน น้ำหนักขึ้นมา 3 กิโล จาก 55 เป็น 58

กลับมาบ้านเท่านั้นค่ะ บ้าลดน้ำหนัก แต่ก็ลดไม่ได้ เพราะมีปาร์ตี้เยอะ เราก็กินด้วยความโหยอาหารไทย อาหารรสชาติที่คุ้นเคย ตอนนั้นเริ่มโรคจิตค่ะ แฟนก็ย้ำเรื่อย ๆ (คือนางย้ำด้วยความไม่คิดอะไรน่ะค่ะ จะโกรธนางก็ใช่ที่ แต่ก็โกรธนางค่ะ ตอนนี้เลิกกับนางไปปีนึงแล้วค่ะ ชีวิตมีความสุขขึ้นมาก) ปฏิญาณตนว่ากลับไปจะลดน้ำหนัก

ก็สำเร็จนะคะ กลับไปเรียน น้ำหนักลดเหลือ 55 อีก ก่อนที่จะได้ไปฝรั่งเศสหนึ่งเดือนต่อมา หนึ่งสัปดาห์ น้ำหนักขึ้นเป็น 57 (งานนี้ขนเครื่องชั่งน้ำหนักกลับไปด้วย 555 โล่งใจไปเยอะ)

เท่านี้ล่ะค่ะ ปฏิญาณตน ฉันจะผอมให้ได้ เลยลดน้ำหนักจริงจังค่ะ ลดได้ถึง 54 53 ก็เริ่มดีใจ พยายามลดต่อไปอีก อยากชนะใจแฟนค่ะตอนนั้น บอกเลย 53 52 51 โรคจิตมากค่ะ ตอนกลับบ้านเดือนมีนาเพิ่มมาหน่อยเป็น 52 กลับไปบ้านหนึ่งสัปดาห์ทานแหลกเหมือนเดิมค่ะ เลยขึ้นมาเป็น 56

คราวนี้ไม่กลัวแล้วค่ะ 56 อาทิตย์เดียวก็หายเหลือ 54 ก็ลดไปเรื่อย ๆ ค่ะ สองเดือนผ่านไปแตะต่ำสุดที่ 48 จำได้ว่าต่ำจนบริจาคเลือดไม่ได้ ใช้ชีวิตโรคจิตมากค่ะ ภูมิใจอย่างเดียวคือผอม ก่อนกลับบ้านมันก็ค่อย ๆ เพิ่มมาเป็น 51

กลับบ้านครั้งนั้น ก็ยังคงความโรคจิตไว้ค่ะ 51 แต่เนื่องจากผอมเกิน เราเลยกินได้แหลก จนกระทั่งก่อนกลับมาเรียนปีหนึ่งมหาลัยน้ำหนักก็กลับไปอยู่ที่ 55 อีกครั้ง

ก็คงตัวอยู่ได้นะคะ เดือนพฤศจิกาไปเที่ยวญี่ปุ่นกับแฟน น้ำหนักเพิ่มเป็น 57 ตอนกลับบ้าน มีปาร์ตี้เหมือนเดิม พยายามลด ก็จบที่ 58 ค่ะ แฟนก็สั่งว่า กลับไปให้ลดน้ำหนัก

แต่เทอมต่อมานี้เรียนเครียดค่ะ แล้วก็กินเพลิน ยิ่งกินกระเพาะยิ่งคราก พอทะลุ 60 เราก็ไม่ชั่งแล้วค่ะน้ำหนัก จนกระทั่งแม่กับแฟนมาเยี่ยม ช็อคไปเลยค่ะ คือตอนนั้นไม่ได้ชั่ง แต่คิดว่าน้ำหนักน่าจะแตะสูงสุดที่ 63 ค่ะ คือตอนที่หนัก 56 แล้วกังวลแทบบ้าว่าตัวเองอ้วน ชิดซ้ายไปเลยค่ะ

เทอมต่อมาเลยต้องลดจริงจัง กลับมาอยู่ที่ 59 ค่ะ ตอนกลับบ้านก็เพิ่มเป็น 60 คราวนี้ก็เข้าคอร์สลดครั้งที่ 2 ค่ะ ลดได้เหลือ 55 อีกครั้งก่อนเปิดเทอม แต่ก็นั่นแหละ ... เอ จำไม่ได้แล้วอะช่วงนี้ว่าเป็นไง ก็น่าจะอยู่ที่ 55 - 57 จนกลับบ้านเป็น 58 เหมือนเดิมมั้ง แล้วกลับบ้านไปกลายเป็น 60 เทอมต่อมาเรียนเครียดมาก ๆ แต่คงน้ำหนักไว้ได้ที่ 59 - 60 จนกระทั่งก่อนกลับบ้านมันทะลุไป 61 ในใจก็คิดว่า เอาวะ ยังดีกว่าปีที่แล้ว พอมาเรียนอีกก็ลดอีกค่ะ ทำได้เหลือ 58 - 59

จนซัมเมอร์คุณแม่มา แล้วเก็บเครื่องชั่ง ตอนแรกมันก็ไม่อ้วนหรอกค่ะ แต่อยู่ ๆ ไปเอนจอยอีตติ้งกันเพลินและไม่ได้ออกกำลังกาย ตอนใกล้เปิดเทอมตกใจหงายไปเลยค่ะ หนัก 64 จริง ๆ ค่ะ เลยตัดสินใจว่า เอาล่ะ ต้องลดละ พอเปิดเทอมก็ได้ประมาณที่ 62 แต่เทอมนี้ดีอยู่ค่ะ ตั้งใจลดจริงจัง และเป็นการลดที่ไม่คับแค้นใจ (เลิกกับแฟนไปแล้ว 55) ลดได้เหลือ 56 กว่า ๆ แน่ค่ะ เป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้กับตัวเองมาก หุ่นดี แฮปปี้เกือบเท่าตอนม.6 เลยทีเดียว จนกระทั่งตอนกลับบ้านมันอยู่ที่ 57 กว่าค่ะ

กลับบ้านไป ขึ้นมาเป็น 61 - 62 ค่ะ เทอมที่แล้วนี้ลดไม่ได้มากเพราะไม่มีเวลา ลดไปได้เหลือ 58 - 59 แต่พอตอนสอบไฟนอลก็ขึ้นค่ะ แบบมีวิชาหนึ่งกินไปอ่านหนังสือไป ก่อนกลับบ้านหนัก 60 กลับบ้านหนนี้ กินไปกินมา มีวันหนึ่งขึ้นไปแตะ 64.5 แบบ โอ้มายก๊อดพระเจ้าช่วยกล้วยทอดมันมอดไหม้ ฉันคิดว่าฉันเลิกนิสัยโรคจิต นิสัยแย่ ๆ ได้แล้วนะ ฉันไม่โหยอาหารแล้วนะ ฉันไม่โรคจิตแล้วนะ ฉัน ฉัน ฉัน แต่นั่นล่ะค่ะ ตัวเลขมันฟ้อง เทอมนี้ตอนต้นเทอม หนัก 62.5 ค่ะ ผ่านไปสามสัปดาห์ ตอนนี้เหลือ 60.6

คือที่เขียนเนี่ย จะบอกตัวเองว่า พอได้แล้ว ไม่เอาแล้วที่โย่ไปโย่มาขึ้น ๆ ลง ๆ เลิก ๆ ลด ๆ รังแต่จะหนักเพิ่มขึ้น สังเวชตัวเอง ทำได้สารพัดควบคุมพฤติกรรมการกินตัวเองไม่ได้ แล้วอยากบอกตัวเองว่าสู้ ๆ ค่ะ พินพินทำได้ ฉันทำได้ ฉันทำได้ ฉันจะควบคุมให้ตัวเองหนัก 55 - 56 ให้ได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน น้ำหนักฉันจะไม่เพิ่มอีก ใช่ค่ะ นับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป น้ำหนักฉันจะไม่เพิ่มอย่างรวดเร็วอีก

...ไม่มีครั้งใดที่เราสู้แล้วไม่ชนะ


ไม่มีความคิดเห็น: