วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550

ของฝากจากญี่ปุ่น

สวัสดีค่ะ~
พ่อเพิ่งไปญี่ปุ่นกลับมา ได้ของมาหลายอย่างเลย

[คั่นรายการด้วยข่าวด่วน... พุธ 12 ก.ย.~โคนันเล่ม 53 ภาษาไทยออกแล้วเน่อ~]

[EDITTED: 26 ก.ย. --- 18 ต.ค. เล่ม 59 ญี่ปุ่นออกน้อ]

รายการแรกที่บอกพ่อไปว่า ถ้าไม่ได้ไม่ให้กลับบ้าน!





















โคนันเล่ม 58 นั่นเอง






















รายการที่สอง...Kyoto Limited Edition ของคุกกี้โคนัน เพื่อนเราเคยซื้อมาฝากเมื่อปีกว่ามาแล้ว ที่จริงพ่อไปโอซาก้า เราก็สั่ง Osaka Limited Edition ไป แต่พอดูเว็บแมงกะพรุน (http://www.koware.net/) ปรากฏว่ามันเรียกว่า Kansai Limited Edition ซึ่ง...พ่อก็หาไม่เจออยู่ดี..ฮือ...คิดว่าเขาเลิกขายไปแล้ว โธ่ อุตส่าห์ลงแรงเขียนตัวคันจิไปเชียวนา... แปะลิ้งก์ให้ดูไส้ในและรายละเอียด --> http://photo.ringo.com/126/126176431RL195278553.jpg http://photo.ringo.com/126/126176524RL362435517.jpgoto.ringo.com/126/126176524RL362435517.jpg http://photo.ringo.com/126/126176850RL293557154.jpg
http://photo.ringo.com/126/126177124RL629490649.jpg29490649.jpg
แต่รูปพวกนี้เป็นของเก่าที่น้ำเอามาฝากเมื่อปีที่แล้ว

รูปเปรียบเทียบของน้ำ(กลายเป็นกล่องดินสอสะบักสะบอมไป 1 ปี) กับของพ่อ -->
















ซ้ายใหม่ ขวาเก่า แต่ดูในนี้ดูไม่ค่อยออกหรอก ว่ามั้ย?

รายการที่สาม...















Brilliant Cut อันนี้ด้วยราคาที่ทำให้เราต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะสั่งซื้อดีรึเปล่า แต่ด้วยเปิดหนังสือพิมพ์ดูอัตราแลกเปลี่ยนแล้วพบว่าบาทแข็ง เวลานี้จึงเหมาะที่สุดที่จะซื้อแล้ว ถ้าไม่ซื้อตอนนี้คงจะไม่ได้ซื้ออีก เลยใส่เข้าไปในรายการซื้อของด้วย พอพ่อซื้อได้ก็รีบโทร.มาพร้อมพูดว่า

"พ่อซื้อดีวีดีได้แล้วนะ...โคตรแพงเลย" เอิ๊ก พ่อพยายามซักว่ามันเกี่ยวกับโคนันยังไง ^ ^



ส่วนรายการสุดท้าย เกือบลืมสั่งไปแล้ว สะดุ้งตื่นมาตอนนอนไปแล้ว 10 นาที แหกขี้ตาขึ้นมาขี้เกียจดูว่าคันจิมันเขียนไง เขียนตัวคานะแบบหวัด ๆ +ภาวนาให้ชาวญี่ปุ่นอ่านออก แต่ถ้าเกิดว่าไม่ได้สั่งซื้อไปนี่ต้องรู้สึกแย่มาก ๆ เลย




















มันก็คือ โชเน็นซันเดย์!!! เแถมได้ตอนไฟล์ 621 ที่แสนจะ...สุดยอด (อยากรู้เนื้อหาดู entry ข้างล่าง ->บันไซ~เอย์สึเกะคุง) เผอิญยัดหน้าปกมันสแกนไม่ได้ ออกมาเบี้ยว ๆ เลยสแกนหน้าที่มีโคนันแทน


พ่อบอกว่าในโอซาก้า โคนันไม่ค่อยดังเท่าไหร่ แย่จัง สงสัยรัศมีเฮย์จิกลบมิด (เจ้าเน่อดำเหรอนะ...)

ของแถม...


Yatsuhashi (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วิกี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Yatsuhashi)






























กับของเล่นที่พ่อได้จากการเที่ยวงานวัด
(เป็น theme งานของการประชุมซักอย่างที่พ่อไป)




















ถามอาจารย์ชีวะว่า เจ้าตัวนี้คือไฟลั่มอะไร


อาจารย์เห็นคุกกี้บนกล่องก่อน เลยก็บอกว่า "ราเมือก slime mold เหมือนเลย" ...อะไรนะ!?


แล้วก็กลับมาดูกันว่าเจ้าตัวนั้นเป็น metameric segmentationรึเปล่า แล้วก็ระบุเจาะจงไปว่าเป็นแอนนีลิด (อาจารย์ชีวะน้อ...อาจารย์ชีวะ - -")
Hikaru

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2550

ง่วง เหงา เศร้า เฉา เซ็ง!

สวัสดี...(หาว) ค่ะ

ในที่สุดฮิคารุก็สอบเสร็จเสียที แต่เราไม่ได้รู้สึกสดชื่นดีใจเหมือนกับชาวบ้านเขาเล้ย... ตอนนี้รอเพื่อนออน MSN เพื่อคุยเรื่องโครงงานเลข -- black box ที่อาจารย์เพิ่งมาสั่งเอาบทคัดย่อสด ๆ ร้อน ๆ กะไม่ให้หนูได้พักเลยรึไงอาจารย์ขา

ง่วง...เมื่อคืนนอนดึกอ่านหนังสือสอบ สู้อุตส่าห์อัดโคนันไว้แล้วไม่ดู แถมตกดึกเกิดนอนไม่หลับ แล้วรุ่งขึ้นสอบก็ต้องตื่นแต่เช้า เลยนอนไม่พอ นอกจากนี้เราสันนิษฐานว่ากำลังถูก Protist กลุ่ม Euglenozoa ชื่อ Trypanosoma กัดกินร่างกายและสมองอยู่ (เพราะเจ้าบ้านี่มันอยู่ในแมลงเซตซีทำให้เกิดโรคเหงาหลับในแอฟริกา แต่รู้สึกในประเทศไทยมันก็แพร่หลายดีจังเลยนะ?) ...เฮ้อ สอบชีวะเสร็จไปสองสามสี่วันแล้วยังหลอนไม่หายเลยแฮ

เหงา...นัดเพื่อนไปกินไอติมฉลองสอบเสร็จ สุดท้ายมีเรากับอุ๋มไปกันสองคน แต่มันก็โรแมนติกดีเหมือนกันนะ ^ ^ กินกันอิ่มดี ที่สำคัญคือแม่เป็นคนเลี้ยง >.< ประหยัดตังค์ด้วย เฮ~

เศร้า...นัดตังเมไว้ ตังเมจะมาเที่ยวเตรียม ตังเมเกิดมาไม่ได้ ถึงตังเมมาได้ก็แทบไม่ได้เจออยู่ดี เพราะข้าพเจ้าเจอประชุมค่ายเลขเลิกเกือบ 5 โมง ปล่อยอุ๋มคอยเท้งเต้งอยู่เป็นนาน

เฉา...(จากข้างบน) แพลนจะทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ทำข้อสอบสังคมก็ผิดไปข้อนึง...ถ้าผิดเยอะ ๆ จะไม่ว่าเลย นี่ผิดข้อเดียว เจ็บใจนัก (อดได้โล่~)

เซ็ง...จากทุกสาเหตุที่กล่าวมา ทำให้เรา ง่วง-เหงา-เฉา แล้วก็ เซ็ง ด้วยประการฉะนี้

อ๊ะ การ์ฟิวออนแล้ว ดีใจจริง อย่างน้อยก็หายเฉาขึ้นมานิดนึงแล้วเรา...

Hikaru

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2550

บันไซ~เอย์สึเกะคุง

ขอไม่พูดอะไรมาก

ถึงผู้ที่อ่านโคนัน รู้จักฮนโด เอย์สึเกะ และไม่เกรงกลัวต่อการเสียอรรถรสในการลุ้นเรื่องราวของเจ้าเด็กแว่น

http://www.cjrteashop.net/teashop/index.php?topic=243.0

เชิญยลตามอัธยาศัยค่ะ

Hikaru

ป.ล. ได้ Brilliant Cut ~Mai Kuraki Live & Document~ มาในครอบครองแล้ว ~~~~ รักพ่อที่สุด >w<

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2550

อิทัง เม สัพเพเปรตินัง โหนตุ...

สวัสดีค่ะ


เขาว่าคนเรามีร้อยแปดพันเก้าประเภท ส่วนใหญ่จะปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็มีมาก เราเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะปกตินัก


แต่ความไม่ปกติก็แต่ละคนนั้น ก็ไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น มิฉะนั้นสังคมจะดำรงอยู่เป็นสังคมได้อย่างไร


มีเพื่อนเราอยู่คนนึง เป็นผู้ชาย ชอบทำตัวลึกลับ ทัก MSN มาแล้วก็หลอกว่าตัวเองเป็นคนโน้นคนนี้ โดยอาศัยว่าตัวเองพิมพ์ภาษาไทยไม่ได้ แล้วเลยหลอกว่าเป็นชาวต่างชาติ/เด็กอินเตอร์ ฯลฯ


ตอนแรกเขาทำกับเพื่อนคนที่นั่งข้างหน้าเรา โดยหลอกว่าตัวเองเป็นเด็กผู้หญิงโรงเรียนร่วมฤดีชื่อ Nancy แล้วเพื่อนคนนั้นก็จับได้ พอเอามาล้อที่โรงเรียนก็โกรธใหญ่... เราก็ได้แต่ขำ ๆ และคิดว่าเจ้านี่ "จะหลอกก็หลอกให้เนียนหน่อยก็ไม่ได้"


เขาแอดเรามา แต่ไม่กล้าเล่นแบบนั้นกับเรา ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด


ต่อมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กำลังเรียนคอม เขาก็ทักเพื่อนที่นั่งใกล้ๆ เรา (จ๊อยท์) ตอนแรกจ๊อยท์ก็บอกว่า มีคนไทยหลอกเขาว่าเป็นคนอินเดีย มาทักเขา เขาจับได้เพราะว่าสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้เป็นแบบไทย เราก็เลยให้จ๊อยท์ตั้งคำถามไป แค่สองสามคำถามก็จนตรอก เราคิดว่า "โรคจิตจริง - -" "


พอมาสัปดาห์นี้ เขาทักเรามาล่ะ

เขาถามเราว่าเราชื่ออะไร เรารู้แล้วล่ะว่าเป็นคนคนเดียวกัน เราจำอีเมล์ได้

แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ว่าเราจำอีเมล์เขาได้


เขาก็หลอกว่าตัวเองเป็นคนแปลกหน้าอีกนั่นแหละ แกล้งทำซื่อมา ถามโน่นถามนี่ ทำฟอร์มว่าเป็นคนแปลกหน้าเต็มที่ และพยายามจะล้วงข้อมูลของเราให้ได้
ถึงเราจะรู้ว่าเขาอยู่ห้องเดียวกับเรา แต่เราก็ไม่เคยให้ข้อมูลเราแม้แต่ ชื่อ กับใครที่ไม่บอกว่าแอดเรามาจากไหน ดังนั้นเราเองก็ไม่บอกข้อมูลของเรา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจเท่าไหร่

เราพยายามโต้ตอบไปกี่ทีก็รู้สึกว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร พยายามจะบอกเป็นนัย ๆ ว่า "เรารู้นะว่านายเป็นใคร" แต่เขาก็ดูจะสนุกสนานดี

เราทนไม่ไหว คนแบบนี้มีในโลกด้วยเหรอ ก็เลย block และ delete ไป ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมห้องแต่แบบนี้เอาไว้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน


ทำไมเขาถึงชอบทำอย่างนี้นะ?


เขาอยู่โรงเรียนชั้นนำของประเทศไทย และถือได้ว่าผลการเรียนก็ไม่ได้ย่ำแย่

ถ้าอนาคตของชาติแบบนี้เติบโตขึ้นไป สมมติว่าเป็นหมอ หมอแบบนี้หรือที่จะรักษาคนไข้ หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์ คนแบบนี้น่ะหรือที่จะคิดอะไรที่มันเกิดประโยชน์แก่โลก?

หรือก็จะกลายเป็นคนโรคจิตที่ขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ๆ

การที่เขาทำอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาไม่กล้าเปิดเผยตัวเอง แต่การเลือกที่จะหลอกลวงคนอื่นแบบนี้ล่ะก็...What a coward!!



มิตรภาพในโลกไซเบอร์เกิดขึ้นได้ถ้าเรามีความจริงใจ...ประโยคนี้เราเคยอ่านจากไดอารี่ของคนที่เราเคารพคนหนึ่ง เรารู้จักเขาจากโลกไซเบอร์ และได้พบตัวจริงกันแล้ว เรารู้จักกันและเสริมสร้างมิตรภาพกันได้เพราะว่าเรามีความจริงใจให้กันและกัน เขาทำให้เรามองเห็นข้อดีในโลกไซเบอร์มากขึ้น



แต่เพื่อนคนนี้ ทำให้เรารู้ว่า ในโลกไซเบอร์ก็ยังมีคนช่างหลอกลวง คนไร้ความจริงใจอยู่เช่นกัน ดังนั้นโลกเล็ก ๆ ใบนี้ก็ยังมีอันตรายอยู่ไม่น้อย

ตอนนี้เขายังเด็ก เขายังหลอกลวงเพื่อน ๆ ในห้องของเขาถึงขนาดนี้ ถ้าหากเขามีพัฒนาการที่สูงขึ้นไปตามวัย จะเกิดอะไรขึ้น...กรณีหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตก็ยังคงมีต่อ ๆ ไป ไม่มีทางหมดไปได้


ก็ได้แต่ สัพเพสัตตา อเวรา อะนีฆา อพยาปัชฌา สุขีอัตตานังปริหะรันตุ แผ่เมตตาให้เขาได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้ล่ะค่ะ

และทิ้งท้าย อิทัง เม สัพเพเปรตินัง โหนตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเปรโต (หลัง ๆ นี่มั่วเอานะ >.<)



Hikaru

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2550

ไพ่กับการเสริมสร้างมนุษยสัมพันธ์

สวัสดีค่ะ

เมื่ออาทิตย์ก่อนไปค่ายมา ที่โรงเรียนเรียกกันย่อ ๆ ว่า "ค่ายผู้นำ" หรือ TULC (เพิ่งรู้เจ้าตัวย่อนี่จากบอมบ์) เป็นค่ายที่ สำหรับเด็กม.4 จะออกแนวต้องบังคับขู่เข็ญถึงจะไป



ขาไป ทั้งคันรถพูดได้เลยว่าเราไม่มีเพื่อนเลยสักคน ส่วนคนรู้จักมีอยู่ 2-3 คน เห็นหน้าหนุงหนิงที่เคยแต่เจอ ไม่เคยคุย ว่าอยู่รถคันเดียวกันก็ดีใจจนแทบลมจับแล้ว



ตอนเด็ก ๆ เราเป็นคนชอบเข้ากับคน ชอบทำความรู้จักกับคน แต่พอโตขึ้นๆ เหมือนเราจะสามารถสร้างกำแพงหนา ๆ ให้ตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัวได้ ถ้าไม่ใช่ว่าจำเป็นจำต้องปะหน้ากันไปอีกนานจริง ๆ เราไม่เคยชวนใครคุยก่อนทั้งสิ้น



งานนี้เราจึงเตรียมหนังสือไปเล่มหนา ๆ เล่มนึง กับการบ้านพีชคณิตบูลีน กะว่านั่งรถไปกลับ 4 ชั่วโมง จะได้มีอะไรทำ ถ้าไม่กลัวไอป๊อดหายก็คงหยิบติดมือมาบนรถด้วยล่ะ



แต่ว่ากิจกรรมที่ผู้คนบนรถนี้ทำอย่างแรกคือ ถามชื่อเสียงของคนที่นั่งใกล้ๆ โดยเฉพาะเจ้าหนุงหนิงข้างตัวเรานี่แหละ ถามจนได้เกือบครึ่งคันได้มั้ง เราก็ได้แต่นั่งมอง ...คนที่นั่งข้างหลังเราเขารู้จักเรามาก่อนด้วยล่ะ (หันไปบอกหนิงที่นั่งอึ้งว่า "คนมันดัง ^ ^/~)



เรานั่งทำกิจกรรมตามพี่แหวนประธานนักเรียนที่เป็นผู้นันทนาการ และผู้นัดแนะกำหนดการที่ค่าย จนกระทั่งพี่แหวนหมดมุก ปล่อยพวกเราพักผ่อน



แล้วพี่กิ๊ฟก็ชวนเล่นคิลเลอร์ ตอนแรกเราก็นั่งดู ดูได้ตาเดียวเอง...

ประชาชีขอเล่นคิลเล่อร์เพิ่มขึ้น...จาก 5 คนเป็น 10 คน

เล่นไปก็ฮาไป ตำรวจจับโจร โจรฆ่าพีเพิล พีเพิลฆ่ากันเองมั่วไปหมด



เล่นกันจนถึงรีสอร์ท ถึงได้สลายวง



แต่ขากลับมา หลังจากนั่งเล่นคิลเล่อร์ (มีคนเล่น 14 คน) เล่นสลาฟ ต่อเพลงมาจนเหนื่อยหอบ แวะซื้อของฝากเสร็จกลับขึ้นมา



อิกลุ่มนี้นั่งจับกลุ่มเม้าท์กระจาย จากเพชรบุรีถึงกรุงเทพฯแล้วยังนัดจะไปต่อกันที่โรงอาหาร ^ ^



บนรถคนนั้น เรารับประกันว่ามีคนที่มีบุคลิก(ภายนอก)เงียบ ๆ อย่างเราไม่ต่ำกว่าหนึ่งในสี่ แต่ดูทว่า"ไพ่"ทำให้ทุกคนเปิดตัวเองมากขึ้น หรืออาจจะเป็นเพราะตัวค่ายที่ทำให้พวกเราสนิทสนมกันมากขึ้นด้วย



ทั้งนี้ทั้งนั้น การเล่นไพ่ต้องไม่พนันนะจ๊ะ



Hikaru







วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2550

วันไหว้ครู

สวัสดีค่ะ
...คาบคอมเวียนมาอีกครั้ง... เป็นวิชาที่บรรดานักเรียนตั้งใจเรียนกันอย่างน่าประหลาด และก็เป็นวิชาที่มีเวลาให้เราอัพบล็อกด้วย (อาจารย์ให้ทำบล็อกเป็นคะแนนเก็บ For2 เลยเอาอันนี้ส่งเลย เพียงแต่ถ้าอาจารย์มาอ่านแล้วคงอนาถใจกับความ...ผิดมนุษย์...ของเรา...ฮ่า)

เมื่อวันพฤหัสที่แล้วเป็นวันไหว้ครูของโรงเรียนเก่า เป็นวันที่เรากับเพื่อน ๆ วางแผนกันมาตั้งแต่เปิดเทอมแล้วว่าจะลาเรียนกลับไปไหว้ครูแน่ ๆ เพราะโรงเรียนใหม่และเก่านั้นอยู่ติดกัน ไม่มีรั้วกั้นในบางส่วน แม้จะไม่มีคำเชิญก็ตาม ใช่ว่าการที่เราออกมาจากโรงเรียนเดิมมานั้นทำให้เราต้องตัดขาดจากสถานที่แห่งความทรงจำนั่นสักหน่อย (สุดท้ายเราก็ได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการไปรับรางวัลนะ ^ ^)

เรากะจะไปโรงเรียนแต่เช้า แต่พอเอาเข้าจริงมันก็ไม่เช้าสักเท่าไหร่ กำลังนอนอยู่เป็นสุขในรถโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นตั้มโทร.มาถามว่าอยู่ไหน เรานับถือที่ทุก ๆ คนสามารถขุดนิสัยตื่นเช้าสมัยอยู่ปทุมวันมาใช้ได้ แต่สำหรับเรามันไม่ได้แล้วน่ะซี พอถึงโรงเรียนเราเอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่ห้องก่อน หอบถุงใส่พวงมาลัยมาใหญ่โต แต่คนไม่ยักมองแฮะ ตอนแรกอุตส่าห์จะไปจองให้ร้านดอกไม้ร้อยพวงมาลัยดอกไม้ให้ อิร้านร้อยพวงมาลัยหน้าหมู่บ้านมันดันตุกติก มาลัยมะลิพวกนิดเดียวเพิ่มราคาอยู่นั่นแหละ 15 แล้ว 20 แล้ว จน 30 ก็แล้ว ถือว่าใกล้เทศกาลวันแม่ก็โก่งราคาเอาเปรียบผู้บริโภค - -" เมืองไทยมันถึงไม่เจริญเสียที โมโหเกิดเต็มแก่แม่เลยชวนไปสำเพ็ง เหมาพวงมาลัยสบู่สวย ๆ มาเป็นกุรุด ไม่เน่า ไม่เหี่ยว แถมถูกกว่าด้วย

เราเริ่มต้นการผจญภัยตามล่าหาอาจารย์ด้วยการหอบถุงมหาพวงมาลัยทะลุไปทางโรงยิมปทุมวัน เจออ.นิรณี อาจารย์คุมทีมปิงปอง เป็นคนแรก อ.นิเป็นอาจารย์ท่านแรกที่เราสนิทด้วยตั้งแต่ม.1 เพราะเราเข้าโรงเรียนมาก็เข้าทีมปิงปองเลย แล้วก็ไปที่ตึก 4 กับตึก 5 เพื่อนำพวงมาลัยไปกราบอาจารย์ที่เคยสอนเรา เดินวนไปวนมา 4-5 ชั้นเพราะสองตึกนี้มีทางเชื่อมติดกัน ไถลแวะคุยกับรุ่นน้องบางคนที่รู้จักบ้าง พอเพลงขึ้นใกล้เวลาเข้าแถวถึงจะเดินมุ่งหน้าไปตึก 1 หน้าโรงเรียน ก็เห็นกลุ่มเพื่อน ๆ ยืนปักหลักรออยูที่เดิมที่เราเคยมานั่งตอนเย็นสมัยอยู่ม.ต้น คุยกันสนุกสนานเฮฮาเหมือนย้อนเวลาไม่มีผิด พิมกำลังโดนเพื่อนรุมล้อ หลังจากที่ได้ทำกรรมล้อเพื่อน ๆ คนอื่นไว้ถึง 3 ปี เราเองเลยดักอยู่ตรงตึก 1 อาจารย์ท่านไหนรู้จักก็เดินนำพวงมาลัยไปไหว้ท่าน

เรารู้สึกดีเล็กน้อยที่ไม่ต้องไปร่วมเข้าแถวกับคนอื่น ๆ ยืนรออยู่ที่ตึก 1 จนเขาให้พวกเด็กที่รับรางวัลเคลื่อนทัพนั่นแหละ ที่จริงที่มาไม่ได้มารับรางวัลทุกคน แต่ก็แฝง ๆ กันเข้ามา ไม่มีใครเช็คใส่ใจ เดินไปที่หอประชุม เสียดายปีนี้ที่ประตูคณะอักษรเขาปิดก่อสร้างอะไรไม่รู้ เลยต้องเดินอ้อมหน้าโรงเรียนไปเข้าหอประชุมอักษรฯจุฬา นั่งรอคิวขึ้นเวที พวกเด็กมหิดลก็ขนทัพกลับมากันหมดด้วย ดีใจจริง ! เหมือนวันรวมรุ่นยังไงก็ไม่รู้ มีพี่ ๆ ที่เข้ามหา'ลัยไปแล้วก็มากัน ระหว่างนั้นเราก็คุย คุย คุย และคุย ราวกับไม่ได้เจอกันมาสักสิบปี เราไปเอาคิวเบอร์ 1 ของเบนมาติดเล่นด้วยล่ะ โรคจิตจริง ๆ แล้วก็เอามาหลอกเพื่อนว่าเราขึ้นรับคนแรก...ฮ่า~ พอเบนรับเสื้อสามารถลงมารอรับรางวัลเรียนดีอีกรอบเราก็ขอเสื้อเขาใส่ถ่ายรูป เหอะ ๆ ที่จริงเราน่าจะขอของการ์ฟิวด้วยนะ ตอนหลังเห็นมิวเอาของฟิวมาใส่ ^ ^

พิธีดำเนินไปตามแบบฉบับที่เราเคยเข้าร่วมมา 2 ครั้ง (ปีที่แล้วเราไม่อยู่แฮะ เสียดายจริง จำได้ว่าไปแข่งวิทย์กับป้าเดือน) พอรับรางวัลกันเสร็จก็ขึ้นไปชั้นบนของหอประชุม มีอาจารย์ท่านหนึ่งคงหมั่นไส้เด็กเตรียมเต็มแก่ ไล่บี้พวกเรามาตั้งแต่ตอนเคลื่อนทัพแล้ว แล้วก็รีบกลับออกมาก่อน ไปซื้อข้าวเที่ยงกินที่ปทุมวัน ที่จริงเราเข้าไปเอาถาดมากินก็ได้ แต่เรามารู้หลังจากอิ่มไปแล้วล่ะ การดักรออาจารย์ที่ตึก 1 เป็นแผนอันแยบยลมากของเรา เพราะอาจารย์ทุกท่านจะต้องเดินกลับมาผ่านทางนั้น เราก็สามารถนำพวงมาลัยไปไหว้ท่านได้ครบทุกคนโดยไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาให้เหนื่อยเหมือนตอนเช้า

ทว่าการที่วิ่งไปวิ่งมา จะเหนื่อยก็เหนื่อยแค่กาย เหงื่อตกเปียกเสื้อเท่านั้น แต่เราอิ่มใจ เหมือนกับมาบอกอาจารย์ว่า หนูไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะคะ อย่างอาจารย์สุรางค์ อาจารย์สอนเคมีคนโปรดที่ทำให้ตอนม.2ป้าเดือนนั่งตั้งใจเรียนด้วยเหตุที่ว่าอาจารย์แกหน้าเหมือนทาทา (แต่เหตุผลเราคืออาจารย์แกสอนสุดยอดจริง ๆ นะ ปูพื้นฐานและเป็นแรงบันดาลใจให้เรารักวิชาเคมียิ่งชีพ) เมื่อตอนเรายังอยู่เค้าไม่พูดกับเราเลย แต่เมื่อออกมาแล้ว เค้ากลับเป็นกันเองกับเรามาก ๆ เลยล่ะ ^ ^

เรากะว่าจะกลับไปเรียนตอนหมดคาบ 5 ปรากฏว่าห้อง 445 (ห้องสมัยม.1) นัดเจอกันตอนบ่ายโมงที่ห้องสมุดเพื่อไปกราบอาจารย์สมฤดีกับอาจารย์อุมาภรณ์ เป็นธรรมเนียมที่ห้องเราทำมากันทุกปี คาบ 6 ของเราเป็นคาบดนตรีสากล จะโดดต่ออีกหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง (?) เรากับอุ๋มไปนั่งคอยกันที่ห้องสมุด มีบางคนอย่างพาทิศ นป ธัชก็มาแล้ว เรากับอุ๋มไปเจอหนังสืออนุสสรณ์ของเตรียมปี 2540 ด้วยล่ะ นั่งดูหน้าอาจารย์เตรียมที่ยังอยู่จนปัจจุบันแล้วเปรียบเทียบ before-after 555 พอสักพักตั้มกับแพร เดินเข้ามาแล้วก็ออกไปเพราะ 812 คาบ 6 เป็นฟิสิกส์... ขาดไม่ได้

พิธีของเราเป็นไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมการกันมา (คือ ปทุมวันพาทิศเค้าเตรียมแหละ แต่เตรียมไม่รู้เรื่อง) เตรียมแต่ใจมา รวมกันได้ครึ่งห้องพอดี 25 คน (ถ้านับตั้มกับแพรก็ +2 กับเด็ก 526 ที่ไม่ใช่ 445 อีก 2) จั๊บที่ไปอยู่แคนาดา แต่กลับมาซัมเมอร์ก็มาด้วยนะ น้ำที่เราคิดว่ากลับไปกับพิมแล้วก็โผล่มาเฉยเลย พอถ่ายรูปกันเสร็จอุ๋มกับรีบไป กลับไปเรียนเคมี...เป็นอันโดดไม่ได้เหมือนกันเพราะอาจารย์เช็คชื่อ ที่เหลืออยู่กราบอาจารย์สมฤดีกับอาจารย์แอนพักหนึ่ง แล้วเราก็กลับไปเรียนดนตรีสากล เป็นอันว่าคาบ 7 อ.บัณฑิตย์เข้ามาไม่รู้เรื่องว่าเรากับเพื่อน ๆ อีกนับสิบ ๆ หายไปจากห้องเป็นเวลาเกินครึ่งวัน (ตอนหลังมารู้ว่าพวกผู้ชายกลับมาเรียนอ.ไมตรีแล้วขออนุญาตไปไหว้ครูต่อตอนคาบ 5)

พิธีไหว้ครู....ที่เราเคยเห็นแค่ว่าเป็นวันที่มีการจัดพานเอาไปให้ครู เข้าหอประชุมเย็น ๆ สวดปาเจรา... แล้วก็ไม่ต้องเรียนคาบบ่าย ถ้าเป็นที่ปทุมวันก็มีการคิดประดิษฐ์ของชำร่วยแจกอาจารย์ท่านอื่น ๆ ด้วย

แต่วันนี้...เรารู้ว่า... วันไหว้ครู มีไว้ให้นักเรียน รวมทั้งศิษย์เก่าที่ไม่มีโอกาสจะได้กลับมาใกล้ชิดสนิทสนมกับอาจารย์ผู้นำทางชีวิตเราในช่วงหนึ่ง จับมือเราจูงไปส่งที่อีกฟากของสายธารแห่งการศึกษาที่ยิ่งวันยิ่งไหลเชี่ยวขึ้นทุกที ได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมเยียน ร่ำลา กราบขอบพระคุณพระคุณที่สาม กลับมารื้อฟื้นความทรงจำเก่า ๆ ทั้งดีและร้ายที่เราได้จารึกไว้ในอนูอากาศของสถานศึกษาแห่งนั้น

ปีหน้าเราจะกลับไปอีก

Hikaru

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2550

Try uploading some pics


Hello!
I'm trying to play with the features of this blog. I've uploaded some of Mai Kuraki's single covers. Isn't she very pretty? She's my favourite singer at the moment, and she's got a very beautiful voice too.



The songs I recommend are Growing of My Heart, Time After Time, Kaze no RARARA, Shiroi Yuki, (well, I recommend every song). Actually she'd sang some English songs too - Secret of My Heart, Stay By My Side, Baby I Like (her first single in the U.S., it's quite surprising that a Japanese singer's first single ever is released in the U.S. before in Japan) etc. ... but these were not popular. Some say that she can speak English very well, but I think though her English is much better from the Japanese standard, I just can't make out what she sings in her English songs - so that may be the reason for why she isn't well-known in the U.S. But in Japan...who could resist such a gifted girl!

I really love her music style. It's R&B, and the melody is somewhat special - can't explain how though. She likes to write English phrases in her songs too. It's not a sentence, it's not grammatically correct, but it makes sense with the Japanese lyrics anyway.

Try listening - you gotta love her!

Good day ^ ^
Hikaru >.<

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

วันสำคัญ

สวัสดีค่ะ

วันหยุดยาว 4 วัน เสาร์-อาทิตย์-จันทร์-อังคาร นี้ เป็นวันสำคัญในหลาย ๆ อย่าง ทั้งวันอาสาฬหาบูชา วันเข้าพรรษา วันภาษาไทยแห่งชาติ

วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันอาสฬหาบูชาคือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธศาสนามีพระรัตนตรัยครบองค์สาม คือมีพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์รูปแรกคือพระอัญญาโกณฑัญญะ ส่วนวันเข้าพรรษาคือหนึ่งวันหลังจากนั้น แรม 1 ค่ำเดือน 8 เป็นวันที่พระภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่ในวัด ไม่ออกไปไหนเพราะช่วงนี้คือฤดูที่ชาวนาปลูกข้าว ถ้าพระสงฆ์ธุดงค์ไปตามนาก็ทำลายต้นกล้าของชาวนาเป็นบาปเสียเปล่า ๆ พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติการเข้าพรรษาไว้

ส่วนวันภาษาไทยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2505 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปร่วมอภิปรายเกี่ยวกับภาษาไทยที่ชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ประชาชนได้ค้นพบพระปรีชาสามารถทางด้านภาษาไทยของพระองค์ จากนั้น ทางคณะอักษรศาสตร์ก็ถือว่าวันนั้นเป็น "วันภาษาไทย" จนกระทั่งปีกาญจนาภิเษก เมื่อพ.ศ. 2539 ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เสนอให้วันนี้เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติกับทางคณะรัฐมนตรี ก็ได้รับความเห็นชอบ วันที่ 29 ก.ค. จึงเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว

แต่สำหรับเด็กนักเรียนม.ปลายธรรมดา ๆ อย่างเราแล้ว สิ่งที่สำคัญของ 4 วันนี้คือ เรามีเวลานอนหลับเพียงพอ มีเวลาว่างให้เราเคลียร์งานให้เสร็จ มีเวลาทวนหนังสือที่เรียนแทบจะไม่ทัน และมีเวลาว่างพักผ่อนทำอะไรไร้สาระไปตามเรื่อง เมื่อเช้าเสียดายที่ตื่นตอน 10 โมง ไม่ได้ดูว่าช่อง 9 เอาโคนันมาฉายรึเปล่า เห็นน้าบอกว่ามี แต่เราไม่แน่ใจว่าน้าจำได้รึเปล่าว่าโคนันหน้าตาเป็นยังไง >.<

ถึงเสาร์อาทิตย์สถานเรียนพิเศษตามสยามสแควร์จะไม่หยุดให้เด็กไปเที่ยว แต่มันก็ยังเป็นวันหยุดอยู่ดีล่ะเนาะ วันหยุด~
(~คลานออกจากรูไปเรียนเลข~)

Hikaru

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ฝนตก...เรียนคอม

สวัสดีค่ะ
ฝนตก...นั่งอยู่ในห้องคอม... (คาบคอมที่โรงเรียนน่ะ เหอะ ๆ) ภาวนาให้มันไม่หยุดตกจะได้ไม่ต้องกลับไปเรียนต่อ (ความคิดของเด็กนักเรียนเหรอเนี่ย!?)

เพิ่งสอบกลางภาคเสร็จไป เมื่อวานหยุดเรียนเลยอ่าน Harry Potter and the Deathly Hallows จนจบ เป็นเล่มที่เกินความคาดหมายมาก (จากเล่ม 5 กับเล่ม 6) เลิกสนใจเจ้าเด็กแว่นมีแผลเป็นบนหน้าผากไปใส่ใจเด็กแว่นมรณะไปแล้ว พออ่านเล่มนี้ทำให้กลับมาคลั่งเด็กแว่นแผลเป็นอีก อ่านจบแล้วสรุปได้ว่า A grand and profound ending, with very touching secrets... Bravo, Rowling!
ตอนเช้าอ่านแฮร์รี่ 3 ชั่วโมง ตอนบ่ายดูโคนันตอน 479 อีก 2 ชั่วโมง (เป็นตอนพิเศษ) นัทสึกิจังนักสืบทิศใต้น่ารักม้าก....มาก ดูไปกรี๊ดไป อุตส่าห์สูบจากบิทห้องสมุด (tokyotosho) ช่วงสอบ (ส่งผลให้คะแนนกลางภาคออกมา.... แต่มันก็น่าพอใจนะ ^ ^) ดูจบเลยนั่งขุด PV เก่า ๆ ที่โหลดมาดองไว้มาดูอีก แล้วก็นั่งดู PV เจ๊ไมจนหนำใจ หมดเป็นอีกชั่วโมงกว่า ตาแฉะแล้วจึงได้ปิดคอมแลเปิดฝาเปียโนมาซ้อม (อาทิตย์นึงอินี่จะซ้อมซัก 5-10 นาที ถ้าไม่มีวันหยุด)

Spoiler
กลายเป็นว่าสเนปเป็นบุคคลที่...แทบจะเป็นพระเอกได้เลย ตอน The Prince's Tale ซึ้งมาก เราอ่านไปน้ำตาตกแหมะ ๆ แอบเกลียดพ่อแฮร์รี่ลึก ๆ คิดว่าที่สเนปโหดกับแฮร์รี่เพราะว่า ไม่อยากให้แฮร์รี่เหมือนเจมส์ อยากให้เหมือนลิลลี่มากกว่า

หมดเวลา อาจารย์ไล่แล้วอ่า ^ ^
Hikaru

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

Hello

Hello,
I am Hikaru, or some people may know me as PinPin. This is the first time I decide to blog, so... if there's anything I should improve, please feel free to comment.

Nice to meet you all.

สวัสดีค่ะ
เพิ่งทำบล็อกเป็นครั้งแรกค่ะ ก็คลำทางผิด ๆ ถูก ๆ ไปเรื่อย ๆ เขียนพล่ามตามแต่ชีวิตจะหาสาระหรือแก่นสาร (หรือหาไม่ได้ทั้งสองอย่าง!?) ได้ ยินดีรับข้อแนะนำ ติ ชม ทั้งหลาย

Hikaru

Hello

This is a test!